ดาวอังคาร

ดาวอังคาร(Mars)
ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์อันดับที่ 4 ในระบบสุริยะ เมื่อมองด้วยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นเป็นดวงสีแดง ดาวอังคารมีลักษณะหลายอย่างคล้ายโลกมากคือ 1 วันบนดาวอังคารมี 24 ชั่วโมงใกล้เคียงกัน มีแกนเอียงทำมุม 24 องศาใกล้เคียงกับโลก ทำให้มีฤดูกาล 4 ฤดูคล้ายกัน แต่ 1 ปีของ ดาวอังคาร ยาวนานกว่าโลกเกือบสองเท่า จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ สนใจดาวอังคารเป็นพิเศษ และเชื่อว่าต้องมี สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
ข้อมูลจำเพาะของดาวอังคาร
- ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ : โดยเฉลี่ย 227.94 ล้านกิโลเมตร(1.524 a.u.)ใกล้สุด 206.7 ล้านกิโลเมตร(1.381 a.u.)ไกลสุด 249.1 ล้าน กิโลเมตร (1.666 a.u.)
- ค่าคงที่ของวงโคจร (Eccentricity) : 0.093 องศา
- คาบการหมุนรอบตัวเอง : 24 ชั่วโมง 37 นาที 22.6 วินาที
- คาบการหมุนรอบดวงอาทิตย์ : 686.980 วันบนโลก ด้วยความเร็ว 24.10 กิโลเมตรต่อวินาที
- ระนาบโคจร (Inclination) : 1:50:59 องศา
- แกนเอียงกับระนาบโคจร : 23:59 องศา
- มวล : 6.421x1026 กรัม หรือ 0.107 เท่าของโลก
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 6,794 กิโลเมตร (โลก 12,756 กิโลเมตร ที่เส้นศูนย์สูตร)
- แรงโน้มถ่วง : 0.380 เท่าของโลก
- ความเร็วหลุดพ้น : 5.03 กิโลเมตรต่อวินาที
- ความหนาแน่น : 1 ต่อ 3.94 เมื่อเทียบกับน้ำ
- ความสว่างสูงสุด : -2.8
*หมายเหตุ : Eccentricity เป็นค่าคงทีของวงโคจร ที่บอกว่าวงโคจรนั้นรีมากหรือน้อย หาได้จากระยะห่างของจุด โฟกัสทั้งสอง หารด้วย ความยาวของแกนหลัก ซึ่งวงกลมจะมีค่า Ecc=0 และพาลาโบล่าจะมีค่า Ecc=1 Inclination มุมเอียงที่ระนาบการโคจรของดาวเคราะห์หรือดาวหาง ทำกับระนานอิคลิปติค มีหน่วยเป็น องศา
โครงสร้างของดาวอังคาร
- rock crust : หินเปลือกโลก
- small, probably solid iron core : แกนกลางเป็นเหล็กขนาดเล็ก,โลหะแข็ง
- mantle of silicate rock : แมนเทิลของหินซิลิเกต
- core : แกน

เปลือกชั้นนอกของดาวอังคารเป็นชั้นของหิน มีสีแดงเพราะเป็นออกไซด์ของเหล็ก (สนิมเหล็ก) พื้นผิวเป็นที่ราบส่วนใหญ่ มีก้อนหินเล็กกระจัดกระจ่ายไปทั่ว ชั้นกลางจะเป็นชั้นของหินซิลิเกต แกนกลางเป็นโลหะแข็ง

ภูเขาไฟโอลิมปัส (Olympus) เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในระบบสุริยะ มีความสูง 25 กิโลเมตรสูงเป็น
สามเท่าของยอดเขาเอเวอร์เรสบนโลก รอบฐานกว้าง 600 กิโลเมตร
ร่องรอยบนที่ราบของดาวอังคารลักษณะคล้ายกับว่าเคยมีน้ำในอดีต
ที่ขั้วเหนือและใต้ของดาวอังคารจะปรากฏเป็นขั้วน้ำแข็งของคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะขยายตัวมากขึ้นเมื่อดาวอังคารหันขั้วนั้นออกจากดวงอาทิตย์
บรรยากาศบนดาวอังคาร
บรรยากาศบนดาวอังคาร มีบรรยากาศที่เบาบางมากใช้หายใจไม่ได้ ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ 95% ไนโตรเจน 2.7% อาร์กอน 1.6% ออกซิเจนและไอน้ำ 0.7% บรรยากาศของดาวอังคารแปรปรวนมากกระแสลมแรง และทำให้เกิดฝุ่นคลุ้งไปทั่วทั้งดาวอังคารนานหลายเดือน ซึ่งบางครั้งสามารถมองเห็นเป็นแถบมืดครอบคลุม ดาวอังคารได้จากโลก
อุณหภูมิของดาวอังคาร อยู่ระหว่าง +25 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน ถึง -120 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน
บริวารของดาวอังคาร มีอยู่ 2 ดวงเป็นดาวขนาดเล็ก นักวิทยาศาสตร์คิดว่าคงเป็นสะเก็ดดาวเคราะห์น้อย ที่ถูกสนามแรงโน้มถ่วงของดาวอังคารจับไว้ ยานอวกาศที่ไปสำรวจดาวอังคาร มีหลายลำคือ
1. มาริเนอร์ 4
2. มาริเนอร์ 9
3. มาร์ส 3
4. ไวกิ้ง 1 และ 2
5. มาร์สพาทไฟเดอร์
บริวารของดาวอังคาร
บริวาร 2 ดวงของดาวอังคาร Phobos และ Deimos มีขนาดโดยเฉลี่ย 22 กิโลเมตรและ 12 กิโลเมตรตามลำดับ จะมีโอกาสเห็นได้ช่วงระหว่างที่ ดาวอังคารใกล้โลกในปีนี้ ด้วยความสว่าง 10.4 และ 11.5 ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับความสว่างที่ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดตั้งแต่ 8 นิ้วขึ้นไปถึงจะสามารถมองเห็นได้ แต่ยังไม่ง่ายถึงขนาดนั้นเพราะมีอุปสรรคในการมองหาอยู่บ้าง เนื่องจากดาวบริวารทั้งสองดวงค่อนข้างอยู่ใกล้ดาวอังคารมาก Phobos อยู่ห่างจากขอบดาวอังคารสูงสุด 22 arcsec หรือประมาณเท่าตัวของดาวอังคาร ส่วน Deimos อยู่ห่างจากขอบดาวอังคาร 74 arcsec หรือราว 3 เท่าตัวของดาวอังคาร ซึ่งจะทำให้ความสว่างของดาวอังคารรบกวนการสังเกตุเเสง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น